วิธีทำธุรกรรมการเงินออนไลน์อย่างไรให้ปลอดภัย หมดห่วงเรื่องโดนโกง

ธุรกรรมการเงินออนไลน์

ธุรกรรมการเงินออนไลน์ มีชื่อเรียกที่หลากหลายมาก ๆ ชื่อที่เราคุ้นหูกันอยู่บ่อย ๆ ก็คงหนีไม่พ้น Internet Banking E-Banking หรือ Online Banking เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการทำธุรกรรมโดนการนำเทคโนโลยีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ามาใช้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เหมือนอยู่หน้าสาขาธนาคาร เช่น โอนเงิน ฝากเงิน ซื้อขายสินค้า ชำระบิลต่าง ๆ โดยทำผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอสมาร์ทโฟน

Online Banking เริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมไทยมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนเริ่มจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าทางออนไลน์ ออกไปข้างนอกน้อยลง ไม่ค่อยพกเงินสด จนกลายเป็นเสมือนความเคยชินในการใช้ชีวิตและเริ่มกลายเป็นสังคมไร้เงินสดมากขึ้นในปัจจุบัน

เมื่อความสะดวกสบายมาพร้อมกับภัยจากมิจฉาชีพที่ควรระวัง มีการแฮ็กข้อมูลการเงินออนไลน์เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ประชาชนมักถูกหลอกให้โอนเงินผ่านทางโทรศัพท์ หรือโดนดูดเงินทางบัญชี หากใช้อย่างไม่ระมัดระวังก็อาจเกิดเหตุการ์เหล่านี้ขึ้นได้

ธุรกรรมการเงินออนไลน์

ตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ ทั้งการโอนเงินออนไลน์ จ่ายเงินซื้อสินค้าง่าย ๆ ด้วยโทรศัพท์มือถือ เพียงแค่มีแอปพลิเคชันของธนาคารที่ได้เปิดบัญชีไว้ เปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ที่พกติดตัว ไม่ว่าจะจำนวนเงินเท่าไหน่ก็สามารถโอนเข้า-โอนออกได้  และเช็กยอดเงินได้แบบเรียลไทม์

“พร้อมเพย์” ฟีเจอร์รับโอนเงินที่ไม่จำเป็นต้องมีเลขบัญชีธนาคาร เพิ่มความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการทำธุรกรรม เปิดใช้งานบริการนี้ได้ง่ายมาก ๆ โดยลงทะเบียนกับธนาคารเจ้าของบัญชี เพียงแค่นี้ก็สามารถโอนเงินให้กันได้โดยใช้เพียงแค่เลขบัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์

อีกหนึ่งบริการที่ถูกใจพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และนักช้อปทั้งหลาย เพราะสามารถโอนเงินผ่าน Mobile Banking โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านกล้องมือถือ โดยผู้โอนไม่จำเป็นต้องใส่ธนาคารปลายทาง เลขบัญชี หรือแม้แต่เบอร์โทรศัพท์และเลขบัตรประชาชน

ข้อดีธุรกรรมการเงินออนไลน์

เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ ก็สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องไปที่สาขาของธนาคาร

จัดการการเงินได้ 24 ชั่วโมง แบบไม่มีวันหยุด ทำให้ไม่ต้องรอเวลาธนาคารเปิดทำการ จะจับจ่ายซื้อของอะไรก็สะดวก ไม่ต้องไปต่อคิวรอให้เสียเวลา

จัดการได้ไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ไหนของประเทศไทย หรือจะไปต่างประเทศก็ไม่ต้องหวั่น เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำธุรกรรมได้แบบ 24 ชั่วโมง

เลือกทำธุกรรมการเงิน โอนเงินออนไลน์กับร้านค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้น หากเป็นแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ ร้านค้าก็ควรจะได้รับในรับรองดิจิตอล (Digital Certificate) โดยส่วนมากจำเป็นจะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยโดยการส่งรหัสก่อนทำธุรกรรม

ระมัดระวังการผูกบัตรหรือผูกบัญชีการหักเงินอัตโนมัติสำหรับการชำระค่าใช้จ่าย เลือกแพลตหอร์มที่น่าเชื่อถือ และหากพบว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับบัญชี ให้ยกเลิกการผูกนั้นและติดต่อธนาคารทันที

ควรตั้งรหัสผ่านที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว รหัสควรมีความรัดกุม เดาได้ยาก และควรรีเซ็ตรหัสอย่างน้อยทุก ๆ 3 เดือนเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตัวเองได้แก่ ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน รหัสเอทีเอ็ม หมายเลขบัตรเครดิต ฯลฯ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ในทุกช่องทาง ทั้งแชทส่วนตัว อีเมล และบนสังคมออนไลน์ เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลของเราไปเพื่อนทำการแฮ็กบัญชี หรือหลอกดูดเงินได้

เข้าแอปพลิเคชันธนาคารเพื่อตั้งค่าจำกัดการโอนเงินออกในแต่ละวันให้เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพโอนเงินออกหมดบัญชี

รู้ทุกการเคลื่อนไหวภายในบัญชีแบบเรียลไทม์ด้วยการสมัครใช้บริการการแจ้งเตือนผ่านธนาคาร เช่น การแจ้งเตือนผ่าน SMS อีเมล หรือข้อความ เพื่อให้เราสามารถตรวจสอบความผิดปกติของบัญชีได้ทุกเวลา

เว็บไซต์ธนาคารปลอม

อีกหนึ่งกลลวงจากมิจฉาชีพที่ต้องระวังคือการใช้เว็บไซต์ธนาคารปลอมเพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป เว็บไซต์ทางการของธนาคารจะต้องมีดังนี้

  1. ต้องมีสัญลักษณ์รูปกุญแจที่เว็บบราวเซอร์
  2. ต้องขึ้นต้น URL ด้วย HTTPS://
  3. ตรวจสอบชื่อผู้ให้บริการให้แน่ชัดว่าเป็นสถาบันการเงิน
  4. ธนาคารไม่มีนโยบายส่ง Link หรืออีเมลเพื่อขอข้อมูลส่วนตัว

หากใครกำลังมองหาตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ให้กับธุรกิจ อยากจะแนะนำ SlipOK แชทบอทตรวจสลิปโอนเงินออนไลน์แบบเรียลไทม์ เพิ่มความอุ่นใจ ลดระยะเวลาในการตรวจสอบการรับเงิน แถมมั่นใจว่าจะไม่พลาดโดนสลิปปลอมแล้วไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน เพราะมีระบบการตรวจที่ถูกต้อง ปลอดภัย มั่นใจได้ ทดลองใช้งานเลย!

SlipOK

แหล่งที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธนาคารกรุงศรีฯ, Fillgoods