5 เทคนิคทำการตลาด ที่ร้านอาหารและคาเฟ่ต้องลอง!

เทคนิคการตลาดสำหรับร้านอาหารและคาเฟ่

สารบัญ

               3 – 4 ปีมานี้ ต้องยอมรับเลยว่าการเปิดร้านอาหารและคาเฟ่นี่การแข่งขันสูงมากจริง ๆ นอกจากเรื่องของทำเลและโลเคชันที่สำคัญมาก ๆ แล้ว การโปรโมทในแอปเดลิเวอรีก็ต้องสู้ ราคาก็ต้องไม่แรงจนเกินไป แถมตัวร้าน ก็ต้องมีคอนเซปต์ที่น่าสนใจ ต้องสามารถดึงดูดลูกค้าจากคาเฟ่อื่น ๆ ที่สวยไม่แพ้กันได้

               การทำการตลาดสำหรับเจ้าของร้านอาหารและคาเฟ่ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย จะมีเทคนิค วิธีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ก็มาดูกัน!

1. ตั้งชื่อเมนูให้น่าสนใจ การตลาดแบบใส่ใจที่หลายคนคิดไม่ถึง!

               ใครว่าชื่อเมนูไม่สำคัญ! เชื่อหรือไม่ว่าชื่อเมนูที่โดนใจ สามารถเป็นตัวตัดสินได้เลยว่าลูกค้าจะสั่งเมนูไหนเยอะหรือน้อย สำหรับเรื่องของชื่อเมนูนี้สามารถแยกพูดได้ 2 ประเด็น

               หนึ่ง คือเรื่องของความน่าสนใจ บางคนอาจจะชอบชื่อเมนูธรรมดา ๆ แบบ ‘ข้าวไข่ข้นกุ้งสับ’ เพราะเข้าใจง่าย อ่านปุ๊บรู้ปั๊บว่าคือเมนูอะไร แต่บางคนก็ชอบชื่อแปลก ๆ ว้าว ๆ แบบ ‘ข้าวไข่ข้นลาวาเดือด’ เพราะมันดูน่าสนใจกว่า อันที่จริง จะตั้งชื่อแบบไหนก็ไม่ผิด เพราะชื่อเมนูก็ควรไปด้วยกันกับคอนเซปต์ของทางร้าน

เทคนิคการตลาด ตั้งชื่อเมนูให้น่าสนใจ

               ถ้าเราตั้งใจเปิดคาเฟ่สไตล์มินิมอล ชื่อเมนูธรรมดา ๆ ก็อาจจะเข้ากับร้านมากกว่า แต่ถ้าเราตั้งใจเปิดคาเฟ่ธีมนางเงือก แล้วปรับชื่อเมนูทุกอย่างให้มีความแฟนตาซีมากขึ้น ก็ไม่มีใครว่าอะไรแน่นอน แต่ในบางครั้งก็เหมือนว่าการตั้งชื่อธรรมดา จะเป็นการเพลย์เซฟเฉย ๆ ไม่มีแต้มต่ออะไร ในขณะที่ ถ้าเราตั้งชื่อให้น่าสนใจและยังเข้าใจง่ายได้ด้วย ก็จะช่วยให้ลูกค้าจดจำร้านเราได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

               สอง คือความคุ้นเคย ต้องยอมรับว่าอย่างไรคนส่วนมากก็ชอบเลือกสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยมากกว่า ดังนั้น ถ้าตั้งชื่อแฟนตาซีมากเกินไป จนลูกค้าเดาไม่ออกว่าเมนูนี้คืออะไรกันแน่ จากเมนูเด็ดก็อาจจะกลายเป็นเมนูขายไม่ออกได้เลย

               จริง ๆ ทางออกของปัญหานี้ไม่ยากเลย คือไม่ว่าเราจะตั้งชื่อเมนูให้แปลกพิศดารหรือมินิมอลมากแค่ไหน ก็ควรมีคำอธิบายบอกไว้ในเมนูเสมอ เพื่อให้คนที่ไม่รู้จักเมนูนี้ หรือเดาไม่ออกว่าชื่อสุดแฟนซีนี้คืออะไร สามารถรับรู้ได้ว่า ‘นี่คือเมนูที่เขามองหาอยู่หรือเปล่า?’ ยิ่งในยุคนี้ที่การเปิดร้านอาหารไม่ได้มีแค่หน้าร้านออฟไลน์ แต่ยังมีหน้าร้านในแอปเดลิเวอรีด้วย การใส่คำอธิบายให้กับทุกเมนูยิ่งสำคัญ แค่บอกว่าเมนูนี้คืออะไร มีส่วนผสมอะไรบ้าง ก็ช่วยให้คุณลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ

2. ตั้งราคาสวย ๆ ด้วยหลักจิตวิทยาตัวเลข

               ถ้าเป็นเรื่องของการซื้อขาย นอกจากคุณภาพแล้ว ก็มีราคานี่แหละ ที่เป็นปัจจัยใหญ่ ๆ ในการตัดสินใจของผู้บริโภค ของคุณภาพดี แต่ราคาสูงมาก อาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าของไม่คุ้มราคา แต่ถ้าตั้งให้ถูกมากเกินไป ผู้บริโภคก็อาจจะมองว่า สินค้าของเราไม่ได้คุณภาพดีมากก็เป็นได้

               การตั้งราคาให้เหมาะสม จึงเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ผู้ประกอบการณ์ต้องคิดให้ดี และต้องไม่ลืมว่ากลุ่มลูกค้าหลักของร้าน จะพอใจกับราคาแบบไหน? แต่บอกเลยว่า การตั้งราคาที่ดีที่สุด คือราคาที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าคุ้มค่ากับการจ่าย และต้องเป็นราคาที่ผู้ขายอย่างเราไม่ขาดทุนด้วยนั่นเอง

เทคนิคการตลาด ตั้งราคาสวยๆ

               ในส่วนของการตั้งราคาสินค้า ก็สามารถหยิบเอาจิตวิทยาเล็ก ๆ น้อย ๆ มาใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น

               2.1 ตั้งราคาให้ลงท้ายด้วยเลข 9
               วิธีนี้จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า สินค้าไม่ได้แพงมากนัก รู้สึกว่าเข้าถึงได้ง่าย เพราะตามหลักแล้ว เรามักจะประเมินราคาสินค้าจากตัวเลขด้านหน้า สินค้าราคา 199 กับ 200 จึงมีความต่างกันในความคิดของผู้ซื้อ แม้ว่าความจริงจะราคาห่างกันเพียง 1 บาท แต่ส่วนต่าง 1 บาทนี้ กลับให้ความรู้สึกคุ้มค่าอย่างมาก จนลูกค้ายินดีที่จะจ่ายนั่นเอง

               2.2 ตั้งราคา 3 ระดับ
               อีกหนึ่งวิธีที่เหล่าคาเฟ่ใช้กันบ่อย ๆ นั่นก็คือการตั้งราคาให้เป็น 3 ระดับ เช่น กาแฟแก้วเล็ก 70 บาท แก้วกลาง 75 บาท แก้วใหญ่ 80 บาท โดยที่ปริมาณของแต่ละแก้ว ก็จะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่กลยุทธ์นี้ จะเล่นกับความคิดที่ว่า ‘เพิ่มอีกนิด แต่ได้ของดีกว่า’ เพราะถ้ามองในภาพรวมแล้ว แก้วเล็กกับแก้วใหญ่ ราคาต่างกันนิดเดียวเอง

               หลักการนี้ เป็นการเล่นกับแนวคิดเรื่องความคุ้มค่าของคน เพราะคนเราย่อมพร้อมที่จะเพิ่มคุณภาพให้กับสิ่งที่เราต้องการได้ หากว่าสิ่งที่ต้องแลกนั้นไม่ได้ทำให้ตนเองเดือดร้อน วิธีนี้ นอกจากจะทำให้ทางร้านได้กำไรมากขึ้นจากการขายของราคาสูงกว่า ยังทำให้ผู้บริโภคพอใจกับความคุ้มค่าที่ได้รับ เรียกว่า วินวินกันทั้งสองฝ่ายไปเลย

3. สร้างรักแรกพบ ด้วยภาพอาหารสวย ๆ ที่ใครเห็นก็ต้องอยากกิน

               มากกว่าการเป็นภาพเรียกความหิว ชวนให้สั่งอาหารแล้ว การถ่ายภาพอาหารสวย ๆ เพื่อใช้ในร้าน ยังให้อะไรที่มากกว่านั้น! ภาพอาหารที่ดูดีในเมนูจะช่วยทำให้คนที่ไม่รู้จักร้านของเรา หรือคนที่ไม่เคยมากิน รู้ว่าอาหารของที่ร้านหน้าตาแบบไหน ยิ่งเป็นภาพเมนูที่อยู่ในแอปเดลิเวอรียิ่งสำคัญ

เทคนิคการตลาด ถ่ายภาพสวยๆ

               ข้าวกะเพราหมู 10 ร้าน ยังไม่เหมือนกันทั้งหน้าตาและรสชาติ การมีรูปในสมุดเมนูและแอปเดลิเวอรี จะช่วยทำให้คนเห็นภาพว่า เขากำลังจะได้กินอะไร? ปริมาณอาหารเท่านี้ คุ้มกับราคาที่เขาจะจ่ายไหม? แต่ข้อควรระวังคือ ถ้าทำอาหารสำหรับถ่ายรูปมาเวอร์เกินไป แต่พอขายจริงไม่ได้ให้เยอะหรือจัดแต่งสวยงามเหมือนตอนถ่ายรูป ก็อาจจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกผิดหวังแทน

               อีกหนึ่งข้อดีของการมีภาพอาหารสวย ๆ คือการสร้างภาพลักษณ์ให้ร้าน ร้านที่มีภาพสวย ๆ ไว้โปรโมท ผู้บริโภคจะมองว่า ทางร้านมีการลงทุนกับการตลาด หากภาพออกมาสวย คนก็จะมองว่า ภาพอาหารสวย ๆ มาจากวัตถุดิบที่ดี มีต้นทุนที่สูง แล้วลูกค้าก็จะยอมรับได้มากขึ้น กับราคาอาหารที่อาจจะแพงกว่าร้านอื่นนั่นเอง

4. จัดเซ็ตเมนูสุดคุ้มให้คุณลูกค้าติดใจ

               การจัดโปรโมชันเซ็ตเมนู ไม่เพียงเป็นการตลาดที่ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าเราในปริมาณที่เยอะกว่าเดิม แต่ยังเป็นการคิดแทนแบบเสร็จสรรพ ทำให้ลูกค้าก้าวเข้าสู่เฟสของการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าตั้งใจจะสั่งแค่อย่างสองอย่าง แต่พอพบว่าบวกเงินอีกนิดหน่อย ได้เซ็ตเมนูสามอย่าง ก็ทำให้การซื้อเป็นเซ็ตน่าสนใจกว่า

เทคนิคการตลาด จัดเซ็ตเมนู

               วิธีนี้จะเหมาะกับร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่ลูกค้ามากันเป็นกลุ่ม แถมยังเฟรนด์ลี่กับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมากิน หรือมาสั่งอาหารกับร้านของเราด้วย เพราะเซ็ตเมนูที่มาพร้อมโปรส่วนลดเหล่านี้ มักจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของกลุ่มลูกค้า เทคนิคคือ ในเซ็ตเมนู อาจจะลองใช้เป็นเมนูฮิตของร้าน รวมกับเมนูใหม่ หรือเมนูที่คนมองข้าม เท่านี้เราก็จะได้โปรโมทเมนูใหม่ ๆ ให้ลูกค้าสนใจได้แบบง่าย ๆ เลย

5. เปิดรับลูกค้าใหม่ ๆ กับอีเวนท์ที่ใคร ๆ ก็อยากมา

               ยุคนี้นอกจากรสชาติอาหาร หรือกาแฟที่ต้องโดดเด่นจนเป็น Signature แล้ว หลาย ๆ ร้านก็ตั้งใจตกแต่งร้านให้น่านั่ง น่าถ่ายรูปมากขึ้น เพราะรู้ว่าเหล่า Cafe Hopper รักการเก็บภาพสวย ๆ จากคาเฟ่กลับไปมากแค่ไหน

               ยิ่งช่วงเทศกาลคาเฟ่ที่ไหนมีจัดอีเวนท์สนุก ๆ ก็ยิ่งดึงผู้คนให้มาเยี่ยมเยือนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวาเลนไทน์ คริสต์มาส ฮาโลวีน หรือวันสำคัญต่าง ๆ เรียกได้ว่า ทางร้านรอรับกำไรสวย ๆ จากลูกค้าหน้าใหม่จำนวนมากได้เลย! แต่ถ้าช่วงไหนไม่มีเทศกาลที่น่าสนใจล่ะ?

เทคนิคการตลาด จัดอีเวนท์

               อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ คือการเปิดรับจัดอีเวนท์งานเฉพาะกลุ่ม เช่น อีเวนท์วันเกิดไอดอล ที่เหล่าแฟนคลับจะมาเช่าสถานที่ จัดอีเวนท์ฉลองวันเกิดให้ไอดอลที่ตัวเองชอบ จุดนี้ถือว่าวินวินทั้งฝั่งของแฟนคลับที่ได้โปรโมทไอดอลที่ตนเองชอบให้คนทั่วไปได้รู้จัก ได้จัดงานกับคอมมูนิตี้ตัวเอง โดยอาจจะมีการแจกของที่ระลึก หรือที่ครอบแก้วในช่วงที่จัดงาน ฝั่งร้านเอง ก็ได้ประโยชน์ทั้งค่าสถานที่ และได้ลูกค้าหน้าใหม่จากกลุ่มแฟนคลับที่มาร่วมงาน

               นอกจากงานวันเกิดไอดอลแล้ว อีเวนท์ทำนองนี้ยังมีอีกเยอะเลย เช่น อีเวนท์วันเกิดตัวละครในอนิเมะ หรืออีเวนท์งานเกม แถมงานพวกนี้ยังนิยมบอกต่อกันปากต่อปาก หากจัดได้ดี ก็อาจจะมียอดจองเข้ามาเรื่อย ๆ เพราะการจัดการงานให้ออกมาดีถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกลุ่มแฟนคลับ

               ถ้าคาเฟ่ หรือร้านอาหารที่ไหนคิดว่ามีพื้นที่พอให้ลูกค้ากลุ่มนี้ และอยากต่อยอดสถานที่สวย ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็ลองวิธีนี้ได้ ไม่ว่ากัน!

               ครบเรียบร้อยกับ 5 เทคนิคทำการตลาด ที่ร้านอาหารและคาเฟ่ต้องลองทำ! และถ้าอยากได้เทคนิคบริหารร้านแบบเข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ยาก ก็คลิกตรงนี้ได้เลย! แต่ถ้าอยากได้ความปลอดภัย การันตีกำไรไม่หายไปเพราะสลิปปลอม ก็ทักมาลองใช้ SlipOK แชทบอทตรวจสลิปโอนเงินกับเราได้ทุกเวลา มีแพคเกจใช้ฟรีด้วยนะ คลิกเลย!

บทความที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร

รู้จัก API ตรวจสอบสลิปโอนเงิน เช็กละเอียด มั่นใจได้ไม่โดนโกง

วิธีเช็กสลิปปลอม ทำอย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อลูกค้าแกล้งโอน?

เตรียมจด! 4 เทรนด์เขียนแคปชันลงโซเชียลให้ยอดขายปัง ลูกค้าติดใจ!